หน้าที่ของแม่ที่มีต่อลูก 5 ประการ

  หน้าที่ของแม่ที่มีต่อลูก 5 ประการ



          

          หน้าที่ของแม่ที่มีต่อลูกในทางพระพุทธศาสนา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ 5 ประการ คือ


ห้ามลูกจากความชั่ว


          การห้ามลูกจากความชั่วถือว่าเป็นหน้าที่ของแม่ ที่ต้องกีดกันไม่ให้ลูกตกไปในทางเสื่อม เช่น ถ้าเห็นว่าลูกกำลังจะคบเพื่อนไม่ดี แม่ต้องรีบตัดไฟแต่ต้นลม จะมัวอ้างว่าตนเองงานยุ่ง ไม่มีเวลาดูแลลูก เอาแต่ใช้เงินเลี้ยงลูก ลูกอยากได้อะไรใช้เงินซื้อให้หมด แล้วจ้างคนดูแลเลี้ยงลูกแทนเพราะแม่ไม่มีเวลา มาตรฐานของลูกจึงตกไปเป็นมาตรฐานของคนดูแล เพราะฉะนั้น ไม่ว่าแม่จะยุ่งเท่าไรก็ควรหาเวลาให้ลูก ก่อนจะต้องมานั่งน้ำตาตกในภายหลัง


ปลูกฝังลูกในทางที่ดี




          แม่ควรหาวิธีการให้ลูกผูกใจกับบัณฑิต หรือบุคคลที่ควรบูชา เช่น พาลูกไปวัดเพื่อให้ลูกได้คุ้นเคยกับพระพุทธศาสนา และพระภิกษุสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตั้งแต่ยังเล็กๆ ลูกจะได้มีจิตใจเป็นบุญกุศล โดยแม่จะต้องทุ่มเทกีดกันสิ่งต่างๆ ที่ไม่ดีไม่ให้มาถึงลูก และให้ลูกดำเนินชีวิตอยู่บนทางที่ดีงาม 

ให้ได้รับการศึกษาเล่าเรียน






          ในปัจจุบัน ครอบครัวที่มีฐานะดีมักจะยอมจ่ายค่าเล่าเรียนราคาแพงๆ ขอเพียงให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด แม่ยอมทุ่มสุดกำลังเท่าที่จะทำได้ แต่ครอบครัวใดไม่รวยก็ไม่ต้องกังวล เพราะยังมีตัวอย่าง ช้างเผือกมากมายให้เราเห็น เด็กที่เรียนโรงเรียนวัดต่างจังหวัดแล้วเติบโตมาได้ดีก็มีมาก ขอเพียงปลูกฝังเขาให้เว้นจากความชั่วแล้วรักดีเพียงเท่านี้ลูกๆ ก็จะมีวิรริยะอุตสาหะ แล้วประสบความสำเร็จได้ในที่สุด


          ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ต่างจังหวัด ไม่ร่ำรวย ลูกต้องเรียนโรงเรียนที่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ลูกเราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เช่นเดียวกัน ขอเพียงแม่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเล่าเรียนของลูก ไม่เพิกเฉยต่อการศึกษาศิลปวิทยาการต่างๆ ของลูก ไม่ใช่พอลูกเรียนจบประถมศึกษา แล้วไม่ส่งเสียให้เขาได้เรียนต่อ ให้เขาออกมาทำงานเลยอย่างนี้ไม่ถูกต้อง แต่แม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่เท่าที่เราจะให้ได้

ให้ลูกได้แต่งงานกับคนดี




         การสนับสนุนให้ลูกได้แต่งงานกับคนดีนั้น ไม่ได้หมายความว่าแม่ต้องจับลูกคลุมถุงชนหาเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ ในยุคนี้เราคงไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น แต่ให้แม่เป็นที่ปรึกษาของลูก ถ้าแม่ให้ความรักความอบอุ่นจนกระทั่งลูกไว้วางใจ พอลูกไปคบหาชอบพอกับใครเขาจะไม่ปิดบังเรา แม่จึงมีโอกาสได้รับรู้ แล้วไม่นานเราจะเริ่มดูออกว่าคนนี้ดีหรือไม่ ถ้าได้แต่งงานกันแล้วอนาคตลูกเราจะเป็นอย่างไร

          ผู้ใหญ่ผ่านโลกมามากกว่า มองอะไรๆ ได้ชัดเจนกว่าคนที่กำลังตามืดบอดเพราะความรัก ซึ่งบางทีมองเห็นแต่ข้อดี ข้อเสียเขากลับมองไม่ออก จนสุดท้ายต้องมานั่งน้ำตาตกใน แต่ถ้ามีผู้ใหญ่เป็นที่ปรึกษาให้ก็ย่อมจะดีกว่า 

          หัวใจสำคัญคือ แม่ควรให้ความรักความอบอุ่นเพียงพอจนลูกไว้วางใจ และเชื่อฟังแม่มากกว่าเชื่อแฟน น้ำหนักของแม่ในใจลูกมีมากกว่าเพื่อนชายเพื่อนหญิงของเขา ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วเราสามารถบอกทิศทางที่ถูกต้องให้แก่ลูกได้

          ที่สำคัญแม่ต้องรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวไม่หักหาญน้ำใจลูกว่าคนนั้นคนนี้ไม่ดีให้เลิกคบ อย่างนี้ลูกจะทำใจไม่ได้ แต่แม่ควรค่อยๆแนะนำลูก ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า สุดท้ายถ้าลูกเชื่อฟังแม่มากกว่าเชื่อเพื่อนหญิงหรือเพื่อนชายของเขาที่เพิ่งคบหากัน แม่ก็จะสามารถแนะนำลูกได้ประสบผลสำเร็จ


           หลายครอบครัวมีแม่ที่ให้ความรักและเอาใจใส่ลูกจนลูกเชื่อฟัง แต่แม่ไม่ได้ไปกำกับบังคับบัญชาลูกทุกๆ เรื่อง ให้ลูกมีโอกาสได้ตัดสินใจด้วยตนเอง โดยอาศัยความรักความผูกพันที่มี สุดท้ายลูกๆ จะเชื่อฟังแม่มากกว่าคนอื่น แล้วแม่จะสามารถชักนำเขาให้ไปในทางที่ถูกต้อง และมีคู่ครองที่ดีได้สำเร็จสมความปรารถนา

มอบทรัพย์มรดกให้เมื่อถึงเวลาอันควร




          การยกทรัพย์มรดกให้ลูกเมื่อถึงเวลาอันควรนั้น ต้องรอให้ลูกเติบโตเพียงพอก่อน แต่ไม่ใช่ว่าแม่จะเก็บทรัพย์มรดกไว้กับตัว จนไม่ยอมมอบให้ลูกเลย

          บางครอบครัวพอแม่ตายไปทั้งที่ยังไม่ได้จัดการมรดก ลูกๆก็ทะเลาะกันจนเกิดความแตกแยก บ้างมีเรื่องมีราวถึงขั้นฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิงมรดก ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดใจมาก

          บางครอบครัวแม่รักลูกมาก เห็นว่าลูกโตจนแต่งงานมีครอบครัวแล้ว จึงยกมรดกให้ลูกไปเกือบทั้งหมด เพราะคิดว่าตนเองอายุมากแล้ว ปรากฎว่าได้เขยหรือสะไภ้ไม่ดี ถึงขนาดไล่พ่อแม่ออกจากบ้าน เพราะถือว่าทรัพย์สมบัติเป็นกรรมสิทธิ์ทางกฎหมายของตนเองแล้ว ทำให้แม่ทุกข์ใจในบั้นปลายชีวิต

          หลักธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ไว้แต่ละข้อนั้นละเอียดอ่อน เราต้องบริหารจัดการให้ดี ถ้ามีมรดก เราก็ควรจัดการทำพินัยกรรมให้เรียบร้อย เพียงแต่ต้องมอบให้เขาในเวลาอันควร ในทางกลับกัน แม่ก็ไม่ควรให้ลูกมากไปจนทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน

           ถ้าแม่เอาทุกอย่างไปฝากไว้กับลูกทั้งหมดจนตลอดชีวิตบั้นปลายชีวิตของแม่นั้นดูจะเสี่ยงเกินไป เราจึงควรดูแลจัดการทุกอย่างให้ดี เหล่านี้คือหน้าที่ของแม่ที่ควรมีต่อลูก


          

cr.พระมหาดร.สมชาย ฐานวุฑโฒ



Comments

  1. "แม่" คำว่า "แม่" ยิ่งใหญ่นัก ไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหนลูกก็ยังเล็กสำหรับแม่เสมอ กว่าท่านจะหมดห่วงจากเราได้นี่ ไม่ง่ายเลยใช่ไหมคะ มีโอกาสตอบแทนพระคุณ ถ้าเป็นชายก็บวชทดแทนคุณให้ท่านเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ ถ้าเป็นหญิงก็พาท่านไปวัดบำเพ็ญบุญ ทำทานรักษาศีลเจริญสมาธิภาวนา ให้ท่านอยู่ในบุญเยอะๆ สาธุค่ะ

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular posts from this blog

แม่ทิ้งลูก "ตั้งแต่ยังแบเบาะ" มีพระคุณอย่างไร

ความรักของแม่ "พระสารีบุตร" "ผู้เป็นบุตรพึงตอบแทนคุณบิดามารดาโดยแท้จริง"